หลังจากที่ประชาชนหลายพื้นที่ใน จังหวัดต่าง ๆ กำลังประสบปัญหาอุกภัยน้ำท่วมอย่างหนักนั้น ล่าสุด ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวถึงความห่วงใยพสกนิกรที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ว่า เป็นเรื่องที่พระองค์ทรงปฏิบัติมาตลอด โดยพระองค์ได้อุทิศเวลาทั้งหมดเพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ โดยเรื่องน้ำ ทั้งน้ำแล้ง น้ำท่วม จะเห็นได้ว่าก่อนพระองค์เสด็จฯ ประทับที่โรงพยาบาลศิริราช ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องน้ำ ประชุมและพระราชทานคำเสนอแนะ เพราะน้ำก้อนหนึ่งผ่านหลายจังหวัด การประสานงานและการจัดการจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ
ประธานมูลนิธิชัยพัฒนาบอกว่า หลายปีก่อนมีน้ำทะลักเข้ามาก้อนใหญ่ไม่มีใครตื่นเต้น พระองค์ทนไม่ไหว รับสั่งเรียกหน่วยงานต่าง ๆ มาประชุม ถามว่าน้ำมีจำนวนเท่าไหร่ แต่ละชั่วโมงถึงบริเวณใด จะได้วางระบบป้องกันเตือนภัย แต่ครั้งนี้ในความรู้สึกผมรัฐบาลอาจทำอยู่แล้ว แต่จุดศูนย์กลางมองไม่ค่อยออก แต่ละหน่วยต้องการประสานร่วมมือ ถ้าวางแผนดี ๆ ใช้ข้อมูลจัดการบริหารปัญหาก็ทุเลา
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาอุทกภัยเกิดหนักมากขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีการนำพระราชดำรัสไปปฏิบัติหรือไม่ นายสุเมธ กล่าวว่า ปัญหาภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลก เพราะมนุษย์ไม่รักษา ทะนุถนอมธรรมชาติ ซึ่งที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเตือนว่า เราอย่ารักแกธรรมชาติ เพราะธรรมชาติจะโกรธและทำลายเราเอง
ซัก ว่าจุดศูนย์กลางคืออะไร นายสุเมธ ตอบว่า ในยามวิกฤติต้องมีศูนย์เผชิญวิกฤติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสังคม การเมือง ต้องตั้งศูนย์กลางข้อมูล เหมือนยามศึกต้องมีกองบัญชาการ ซึ่งมีหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการร่วมกัน เมื่อนำข้อมูลมารวมกัน ให้คนที่มีประสบการณ์ได้ตัดสินใจในข้อมูลนั่น จะไม่ชุลมุนไปหมด และแนะให้รัฐบาลตั้งจุดศูนย์การประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ในการช่วยเหลือประชาชน และแก้ปัญหาน้ำท่วมในหลาย ๆ จังหวัดขณะนี้ เพราะหากมีการวางแผนที่ดีในการบริหารจัดการ ก็จะสามารถแก้ปัญหาให้บรรเทาลงได้
"ที่ผ่านมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอุทิศตน ให้ความสนพระทัยในเรื่องน้ำ เพื่อแก้ปัญหาให้กับราษฎร แม้จะมีพระอาการประชวร ก็ได้มีการจัดให้หน่วยราชการ เข้าเสนอแนะการแก้ปัญหา ซึ่งกลไกต่าง ๆ ก็ขับเคลื่อนไปได้ด้วยดี นอกจากนี้ ยังมีการแบ่งหน้าที่ในการรับผิดชอบของมูลนิธิต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้ทางมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ได้เข้าช่วยแจกสิ่งของให้กับประชาชน ที่ประสบภัยจากน้ำท่วม แต่หลังจากน้ำลด ทางมูลนิธิชัยพัฒนา ก็จะเข้าช่วยเหลือฟื้นฟู ทั้งในส่วนของไร่นา ที่ได้รับความเสียหาย รวมทั้ง ให้ทุกฝ่ายช่วยกันสกัดกั้น ไม่ให้น้ำเข้าท่วมโรงพยาบาล เพื่อให้โรงพยาบาล สามารถเปิดให้บริการได้" นายสุเมธ กล่าว
ทั้งนี้ เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา ยังได้เน้นย้ำเรื่องการแก้ปัญหาน้ำว่า ทุกฝ่ายไม่ควรจับจ้อง หรือมอบเป็นภารกิจให้กับพระองค์ท่าน แต่ต้องมองย้อนไปที่ตัวเองว่า มีความเอาใจใส่ในปัญหานี้อย่างไร พร้อมย้ำเตือนให้ทุกฝ่าย หยุดทำร้ายธรรมชาติ นอกจากนี้ ดร.สุเมธ ยังกล่าวแนะนำอีกว่า สถานการณ์ความขัดแย้งของบ้านเมืองในขณะนี้ ทุกคนต้องใช้เหตุผล และสติปัญญาแก้ไข ปัญหาทุกอย่างก็จะทุเลาลงได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น